วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เขากระโจม


พระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขากระโจม
เหตุที่ต้องนั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้น ก็เนื่องจากว่าเว้นทางขึ้นเขากระโจมนั้นสูงชันและสมบุกสมบันเอาเรื่อง(แต่ทิวทัศน์ก็สวยงามเอาเรื่อง) โดยเฉพาะช่วงที่เป็นถนนลูกรังนี่ เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง แถมบางช่วงยังต้องลุยน้ำที่สูงถึงครึ่งคันรถ ก่อนจะไปลุ้นกันกับเนินสูงยาวที่พลขับของเรานั้นกว่าจะผ่านพ้นเนินแห่งนี้ไปได้ก็เหนื่อยพอตัว ส่วน”ผู้จัดการท่องเที่ยว” กับพี่สุเทพแม้จะเป็นผู้โดยสาร(ยืนกระบะหลัง)แต่ว่าก็ลุ้นกันเหนื่อยอยู่เหมือนกัน สุดท้ายเราก็มาถึงยังเนินสุดท้ายที่ถนนชันมากแถมช่วงหน้าฝนอย่างนี้ถนนค่อนข้างเละ เพราะฉะนั้นจึงไม่เหมาะต่อการขับรถขึ้นเขาด้วยประการทั้งปวง แม้จะเป็นโฟร์วีลก็ตาม

ทะเลหมอกจางๆบนยอดเขากระโจม
งานนี้พวกเราจึงต้องลงเดินขึ้นสู่ยอดเขากันในระยะทางประมาณ 100 เมตร ที่พอขึ้นไปถึงบนนั้นความเหนื่อยหายไปเป็นปลิดทิ้ง แถมยังถูกแทนที่ด้วยสายลมแรงๆที่พัดกระโชกให้ร่างกายเหน็บหนาวอยู่อย่างต่อเนื่อง ณ บนยอดเขากระโจมหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า“เนิน 1000” มีป้ายติดหราบอกไว้ว่านี่คือพื้นที่ “สุดเขตประเทศไทย ภาคตะวันตก”เป็นที่ตั้งของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.137) ซึ่งด้านหน้าคือเทือกเขาตะนาวศรีฝั่งประเทศพม่าที่แนวรบด้านนี้สงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวเหมือนแนวรบฝั่งไทย-กัมพูชา สำหรับบนยอดเขากระโจม ไม่เพียงเป็นที่ตั้งของฐานตชด.เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดกลางเต็นท์ของนักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบในธรรมชาติอีกด้วย ส่วนที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของยอดเขากระโจมก็คือที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกชั้นดี รวมถึงเป็นจุดชมทะเลหมอกใกล้กรุง ที่วันไหนฟ้าฝนเป็นใจ ทิวทัศน์ยามเช้า-เย็น และทะเลหมอกบนยอดเขากระโจมจะดูสวยงามมาก

1 ความคิดเห็น:

salinrat กล่าวว่า...

อยากไปเที่ยวมั่ง
มี the man ชวนไปเที่ยวด้วยนะเนี่ย
555